วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีประกาศขยายธุรกิจขนาดใหญ่ และลูกค้าเอสเอ็มอี


กรุงเทพฯ (10 กุมภาพันธ์ 2557) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจปี 2557 ในวันนี้ว่า ธนาคารจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจลูกค้าขนาดใหญ่ และธุรกิจลูกค้า SMEs โดยการสนับสนุนของผู้ถือหุ้นใหญ่เชิงกลยุทธ์รายใหม่ของกรุงศรี คือธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ซึ่งถือหุ้น 100% โดย มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) พร้อมเดินหน้าตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย

นายโนริอากิ (โนริ) โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “สำหรับปี 2557 นี้ กรุงศรี ได้ตั้งเป้าเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 9% ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ซึ่งประกอบด้วย การขยายฐานธุรกิจลูกค้าขนาดใหญ่และกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี การคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย การสร้างฐานเงินฝากให้แข็งแกร่งด้วยต้นทุนที่ต่ำลง การสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน และขยายโอกาสในการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLM ซึ่งประกอบด้วยประเทศกัมพูชา ลาว และพม่า ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว”

กรุงศรีมีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ทั้งของไทย ญี่ปุ่น และบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG และ ความเชี่ยวชาญระดับสากลในการทำธุรกิจธนาคาร โดยกรุงศรีจะมุ่งให้การสนับสนุนลูกค้าขนาดใหญ่ในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศโดยเฉพาะในเขตลุ่มแม่น้ำโขง การขยายผลิตภัณฑ์และบริการไปสู่กลุ่มธุรกิจที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเป็นห่วงโซ่ หรือ supply chain รวมถึง cross sell บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่พนักงานของบริษัทลูกค้าขนาดใหญ่เหล่านี้

สำหรับกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี กรุงศรีมุ่งสร้างความแข็งแกร่งและการรับรู้แก่แบรนด์กรุงศรี SME กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกัน เราก็จะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของธุรกิจในเครือด้านสินเชื่อรายย่อย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้าง เพื่อเป็นทางเลือกทางการเงินให้กับลูกค้า เช่นเดียวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้สะดวกรวดเร็วขึ้น


“สำหรับตลาดเงินฝากที่มีการแข่งขันสูง เราจะมุ่งไปที่การสร้างฐานเงินฝากที่แข็งแกร่ง ด้วยการนำเสนอบริการทางการเงินที่ครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าองค์กร” นายโนริ กล่าว

ในปีที่ผ่านมา กรุงศรีโดย บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ ได้ขยายการให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ต่างๆสู่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารได้ และในปี 2557 “ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ” ยังคงมีแผนที่จะสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจนี้ต่อไป ด้วยการขยายเครือข่ายด้านการบริการ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

“ในส่วนของการขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค กรุงศรีกำลังเตรียมความพร้อมในการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มประเทศ CLM ผ่านการสนับสนุนของ BTMU ซึ่งปัจจุบัน BTMU มีสาขาอยู่ใน 13 ประเทศหลักของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย รวมถึงประเทศกัมพูชา พม่า เวียดนามมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์”

“ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายในปีนี้ กลยุทธ์ต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินอยู่ จะอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาให้สินเชื่ออย่างระมัดระวังและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าเราจะเติบโตอย่างมีคุณภาพ”

“พร้อมๆ ไปกับการดำเนินกลยุทธ์ทั้ง 5 ประการ เราจะรวมธนาคาร BTMU สาขากรุงเทพฯ เข้ากับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตามกฎระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดให้สถาบันการเงินดำเนินการตามนโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบ การรวมกิจการนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี” นายโนริ กล่าว

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 กรุงศรีได้เข้าเป็นบริษัทในเครือของ MUFG กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มจากที่ BTMU ได้ถือครองหุ้นมากกว่า 72% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคาร ขณะที่กลุ่มรัตนรักษ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมยังคงถือหุ้นอยู่ 25% สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุด
ระดับโลก ภายหลัง

ที่มา:http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=2&cid=0&did=3450

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีขยายบริการ ณ สาขา รองรับฐานลูกค้าญี่ปุ่น



กรุงศรีขยายบริการ ณ สาขา รองรับฐานลูกค้าญี่ปุ่น

· เพิ่ม Japanese Desk พร้อมพนักงานที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ 
· พัฒนาต่อยอด 4 กลยุทธ์หลักด้านสาขาและเครือข่ายการขาย 

กรุงเทพฯ (19 มิถุนายน 2557) -- กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เผยกลยุทธ์สาขาและเครือข่ายการขายของ
ธนาคาร ที่จะมุ่งขยายการให้บริการไปสู่กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น โดยใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล 
กรุ๊ป (MUFG) โดยเพิ่มพนักงานสาขาที่มีทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่น และเพิ่มภาษาญี่ปุ่นสำหรับเครื่องกรุงศรี ATM พร้อมเปิดสาขา
ใหม่ และขยายพื้นที่สาขาเดิมในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมที่มีชาวญี่ปุ่นทำงาน เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น


ที่มา ;http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=&cid=&did=3665


วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงศรี และ BTMU สาขากรุงเทพฯ ปล่อยกู้ ธกส. 2 หมื่นล้านบาท


กรุงเทพฯ (12 มิถุนายน 2557) -- กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ปล่อยกู้ 1 หมื่น ล้านบาทระยะเวลาสามปีให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หลังจากชนะการประมูลเงินกู้จำนำข้าวของกระทรวงการคลัง เพื่อนำมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา ขณะที่ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) สาขากรุงเทพฯ ได้ปล่อยกู้สมทบอีก 1 หมื่นล้าน การประมูลครั้งนี้ทำให้กรุงศรีเป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนรายเดียวที่ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่โครงการรับจำนำข้าว

มร. โนริอากิ โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “เราเข้าร่วมประมูลด้วยเจตนารมณ์ชัดเจนที่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย การชนะการประมูลเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นด้วยความจริงใจของเราในการให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่เราสามารถทำได้”

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 กรุงศรีได้เข้าเป็นบริษัทในเครือของ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ภายหลังจากที่ BTMU ได้ถือครองหุ้นมากกว่า 72% จากจำนวนหุ้นทั้งหมดของธนาคาร



ที่มา  http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=&cid=&did=3652

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีและเวสเทิร์น ยูเนี่ยน เปิดบริการล่าสุด รับ-ส่งเงินผ่านกรุงศรีออนไลน์




กรุงศรีเป็นธนาคารแรกในภูมิภาคเอเชียที่ให้บริการเวสเทิร์น ยูเนี่ยนครบทุกช่องทางบริการ ทั้งเคาน์เตอร์ โทรศัพท์ เอทีเอ็มและออนไลน์

กรุงเทพฯ (13 มีนาคม 2557) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ร่วมกับเวสเทิร์น ยูเนี่ยน เปิดให้บริการรับ-ส่งเงินระหว่างประเทศผ่านบริการอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (กรุงศรีออนไลน์ - KOL) โดยลูกค้าที่ต้องการส่งเงินสามารถทำรายการผ่านเว็ปไซต์www.krungsri.com ระบบจะโอนเงินด่วนจากบัญชีเงินฝากของลูกค้ากรุงศรีไปยังผู้รับปลายทางผ่านจุดให้บริการซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมกว่า 200 ประเทศและเขตการปกครองต่างๆ ทั่วโลก ทำให้ลูกค้ามีความสะดวก รวดเร็วปลอดภัย และสามารถทำรายการได้ทุกวัน ตลอด24 ชั่วโมง

นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “บริการรับ-ส่งเงินระหว่างประเทศผ่านอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือกรุงศรีออนไลน์ “คลิกปั๊บรับเวสเทิร์น ยูเนี่ยน” ถือเป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งของการนำเสนอบริการทางการเงินที่กรุงศรีได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสะดวกไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา และไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มใดๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับลูกค้าทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ผู้ที่ทำธุรกิจซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทย รวมถึงคนไทยที่มีครอบครัวอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการตลาดของ
กรุงศรีเรื่องเงิน เรื่องง่าย นอกจากนั้นกรุงศรีออนไลน์ “คลิกปั๊บรับเวสเทิร์น ยูเนี่ยน”ยังเป็นบริการที่เข้ามาเติมเต็มทำให้กรุงศรีเป็นธนาคารแรกในภูมิภาคเอเชียที่ให้บริการรับ-ส่งเงินระหว่างประเทศที่ครอบคลุมทุกช่องทางนอกเหนือจากการทำรายการผ่านเคาน์เตอร์ของกรุงศรีเวสเทิร์น ยูเนี่ยน หรือทางโทรศัพท์ หรือผ่านกรุงศรีเอทีเอ็มที่มีกว่า 4,500 ตู้ทั่วประเทศ"

ทีมา  http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=2&cid=&did=3504

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีนำเสนอแบบประกันสะสมทรัพย์-คุ้มครองมือถือ




ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้นำเสนอแบบประกันชีวิตระยะสั้นแบบมีเงินคืนทุกปี โดยเจาะกลุ่มฐานลูกค้าของธนาคารเป็นหลัก  ร่วมกับ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต  และ บมจ.ไทยประกันชีวิต  เน้นการขายในกรุงเทพฯเป็นหลัก 
นอกจากนี้ยังมีการเตรียมพร้อมออกแบบประกันเพื่อคุ้มครองโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะรับประกันโทรศัพท์มือถือที่มีสัญญาซื้อไม่เกิน2เดือน  นับตั้งแต่วันที่ขอเอาประกันรวมถึงสมาร์ตโฟนของไอโฟน,ซัมซุง กาแลคซี่ และไอแพดเฉพาะรุ่นที่มีราคาซื้อตั้งแต่ 20,000บาทขึ้นไป โดยจะให้ความคุ้มครองโทรศัพท์เคลื่อนที่จากอุบัติเหตุทั่วไป เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ตกน้ำ ตกหล่นสูงสุด 15,000 บาท รวมถึงการลักทรัพย์ โดยลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกทุกครั้ง ทุกกรณี 2,000บาท

ที่มา  หนังสือการเงินการธนาคาร เดือน เมษายน 2557  หน้า 59-60


วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กรุงศรี ควิกเพย์ รุกธุรกิจโลจิสติคส์ และขายตรง รองรับการเติบโตของ Mobile Payment





กรุงเทพฯ (21 พฤษภาคม 2557) -- กรุงศรี ควิกเพย์ มุ่งเป็นผู้นำในการนำเสนอเทคโนโลยีการรับชำระเงิน ด้วยการขยาย
โอกาสสู่ธุรกิจโลจิสติคส์ และธุรกิจขายตรง รองรับการเติบโตของการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Payment) 
ชูจุดเด่นรองรับทั้งบัตรเครดิต และบัตรเดบิต พร้อมระบบปฏิบัติการที่สามารถเชื่อมต่อ และสนับสนุนงานของลูกค้า เน้น
ทำงานร่วมกับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเติบโตอย่างมั่นคง

มร. ฟิลิป แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แผนธุรกิจของกรุงศรี ควิกเพย์ 
ปีนี้จะมุ่งไปที่ธุรกิจโลจิสติคส์ และธุรกิจขายตรง เพราะกระแสความนิยม การเติบโตของผู้ใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต 
รวมถึงการใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการช้อปปิ้งออนไลน์ ทำให้ร้านค้าจำนวนมาก รวมถึง
ธุรกิจขายตรง หันมาพัฒนาช่องทางการตลาดผ่านโทรศัพท์มือถือ Mobile Payment หรือธุรกรรมการชำระเงินผ่าน
โทรศัพท์มือถือ จึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย”



ที่มา http://www.krungsri.com/th/news-detail.aspx?cids=&cid=&did=3615

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กรุงศรีชูกลยุทธ์เพื่อความมั่งคั่ง






ธ.กรุงศรี   มีแผนมุ่งเน้นการให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการออม  การลงทุน  ผ่านบริการ Plan your money  จากเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการอบรม  และมีความรู้ พร้อมที่จะให้คำแนะนำด้านการลงทุนโดยทีมงานมืออาชีพ  เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีสำหรับลูกค้าอีกด้วย
                สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งของกรุงศรี ในปี 2557 นี้  แบ่งเป็น 4 แนวทาง  ได้แก่
1     1.   การบริหารต้นทุน  เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน
2     2.    เพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรม  โดยการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ของธนาคาร ผ่านบริการที่อำนวยความสะดวก
3     3.   ปรับขั้นตอนการทำงาน  เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ  เช่น  ลดระยะเวลาในการอนุมัติผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย

4     4.   บริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ  เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย  และตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม

ที่มา Market Plus ปีที่ 6 ฉบัยที่ 56 :เมษายน 2557

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กรุงศรีฯ จับมือมาสเตอร์การ์ดอัพเกรด ATM



ธนาคารมีเป้าหมายที่จะพัฒนาตู้ATMให้มีความปลอดภัยมากขึ้น  โดยสามารถรองรับการทำรายการด้วยบัตรมาสเตอร์การ์ดที่มีชิปการ์ด  ซึ่งการทำธุรกรรมผ่านบัตรแบบมีชิปหรือ EMV Ship Card ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากการถูกโจรกรรมมากว่าการทำบัตรชนิดแถบแม่เหล็กที่ใช้เพียงการตรวจสอบลายเซ็นของผู้ถือบัตรและลักษณะบัตรภายนอกเท่านั้น  นอกเหนือจากการใช้ระบบชิปในATMแล้ว  มาตรฐานชิปการ์ดถูกใช้ในธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ เช่น  การชำระเงินทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์  ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวไม่เพียงเป็นการเพิ่มความปลอดภัย  แต่ยังช่วยลดอัตราการเกิดการฉ้อโกง  และยังช่วยให้การควบคุมการตรวจสอบบัตรเครดิตเป็นไปได้ด้วยดี


ที่มา Magazine banking and insurance  กุมภาพันธ์ 2557 ฉบับที่ 14 ปีที่ 163 หน้าที่ 97

วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

‘Scan & Pay’ นวัตกรรมการเงินล่าสุดจาก ‘กรุงศรี โมบาย แอพพลิเคชั่น’


นายฟิลิป แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดตัว บริการใหม่ ‘Scan & Pay’ 
นวัตกรรมทางการเงินล่าสุดจากกรุงศรี เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการชำระเงินผ่าน กรุงศรี โมบาย แอพพลิเคชั่น (KMA) 
เพียงลูกค้าใช้แอพพลิเคชั่นสแกนบาร์โค้ดจากใบแจ้งยอดชำระ ก็สามารถชำระเงินได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้นยังเพิ่ม
ความสะดวก โดยการเก็บรายชื่อผู้รับชำระเงิน (Biller) ไว้ในรายการชำระประจำ (Favorite Bill Payment) และสามารถ
เรียกดูรายการย้อนหลังได้อีกด้วย ‘Scan & Pay’ บริการที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ทุก
ธุรกรรมเป็นเรื่องง่าย สะดวก และรวดเร็ว ตอบรับกับแนวคิดของกรุงศรี ‘เรื่องเงิน เรื่องง่าย’

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีรายงานผลกำไรสุทธิ 3.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/2557





กรุงเทพฯ (18 เมษายน 2557) -- กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) วันนี้ได้รายงานผลกำไรสุทธิ
ไตรมาส 1/2557 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2556 ซึ่งเป็นผลจากการตั้งสำรองพิเศษใน
ไตรมาส 4/2556 และลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2556 ในภาวะที่เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจาก
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงและความไม่แน่นอนทางการเมือง


สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญ สำหรับไตรมาส 1/2557

• เงินให้สินเชื่อ: หดตัว 0.4% คิดเป็นสินเชื่อที่ลดลงจำนวน 3.7 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556
• การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 2.2% คิดเป็นจำนวน 16.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556
• กำไรสุทธิ: อยู่ที่จำนวน 3.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 223.5% จากไตรมาส 4/2556 หรือลดลง 18.8% จากไตรมาส 1/2556
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): ปรับลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 4.22%
• รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ: หดตัว 5.7% จากไตรมาส 4/2556 และ 2.5% จากไตรมาส 1/2556 ซึ่งเป็นผลจาก
ค่าธรรมเนียมจากการให้กู้ ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเช่าซื้อ และค่าธรรมเนียมบริการบัตรที่ลดลง
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 50.1% เมื่อเทียบกับ 50.9% ในไตรมาส 4/2556
• อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ: อยู่ที่ 2.97% เทียบกับ 2.67% ในเดือนธันวาคม 2556 การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ
เป็นผลจากสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อเพื่อรายย่อย ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและภาระ
หนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
• อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 134.5%
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 14.4% เมื่อเทียบกับ 14.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556


วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีฯดันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น15%

 แบงก์กรุงศรีฯยันหลังการทำธุรกิจระยะยาวมุ่งพัฒนาทั้งโปรดักต์-เครือข่ายตอบโจทย์/สนองลูกค้าทุกกลุ่ม เผยแผนระยะกลาง 3-5 ปีดันผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น 15%ขณะที่ปีนี้สั่งทีมเกาะติดซัพพลายเชน- หวังขยายสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่ไปตปท.และโครงสร้างพื้นฐาน
 การที่ธนาคารแห่งโตเกียวมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนซ์ กรุ๊ป(MUFG)เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 72%ในธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน(บมจ.)โดยกลุ่มรัตนรักษ์คงสัดส่วนถือหุ้น 25% ที่เหลือเป็นรายย่อยอีก 3% ซึ่งนับเป็นธนาคารอันดับ 5 ของธนาคารพาณิชย์ไทยโดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ 2.28 แสนล้านบาทเป็นอันดับ 14 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
    นายโนริ  โมโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด(มหาชน)(บมจ.) เปิดเผย  แนวทางการดำเนินธุรกิจโดยใช้กลยุทธ์คือ รวมกันทำให้มีจุดแข็งซึ่งกันและกันคือ เดิมธนาคารมีความแข็งแกร่งและมีส่วนแบ่งทางการตลาดกลุ่มลูกค้ารายย่อยเป็นอันดับ 1 เมื่อผนึก BTMUทำให้มีซัพพลายเชนไทยและญี่ปุ่นซึ่งบริษัทที่ต้องการขยายกิจการหรือลงทุนต่างประเทศจะมี BTMU ซึ่งเป็นธนาคารระดับโลกให้คำแนะนำ อีกทั้งบริษัทญี่ปุ่นที่มีอยู่ในไทยยังมีพนักงานกว่า 6-7 แสนคนเหล่านี้จะเป็นฐานลูกค้าที่บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยาสามารถต่อยอดธุรกิจทั้งบริการและโปรดักต์นอกจากบัญชีเงินเดือนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดโอกาสในการทำธุรกิจและก้าวสู่ธนาคารลุ่มแม่น้ำโขงและเอเชีย
    ต่อข้อถามถึงแนวโน้มผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นนั้น นายโนริอากิ โกโตะ ยืนยันว่านโยบายของ BTMU มุ่งลงทุนระยะยาวโดยคาดหวังที่จะเห็นผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับ 15%   ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างจัดทำแผนระยะกลาง  อย่างไรก็ตามปัจจุบันความเพียงพอของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่มีอยู่ในระดับ 14.7%โดยมีเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 10.2% เชื่อว่าเงินกองทุนที่แข็งแกร่งดังกล่าวจะตอบสนองกับการเติบโตของธุรกิจและสินเชื่อในอีก 2-3ปีข้างหน้า ทั้งนี้แนวโน้มโครงสร้างสินเชื่อ3ปีข้างหน้ากลุ่มรายย่อยจะมีสัดส่วน40% รายใหญ่และเอสเอ็มอี 60% จากปัจจุบันรายย่อยมีสัดส่วน 50% ธุรกิจรายใหญ่26% ธุรกิจเอสเอ็มอี 24%
    ขณะที่ไตรมาสแรกของปี 2557 มีการชะลอตัวของเศรษฐกิจจึงคาดว่าอัตราการเติบโตสินเชื่อจะอยู่ที่ระดับ 7-9%(9%มูลค่า.......)ซึ่งมองว่ายังเป็นอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง บนสมมติฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการเหลือ 2.5-3%  โดยที่ธนาคารยังให้ความสำคัญการบริหารความเสี่ยงและมุ่งเน้นความรอบคอบและเพิ่มความเข็มงวดและรัดกุมมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อรวมถึงการติดตามเร่งรัดเก็บหนี้
    " แม้ยังควบรวมกิจการระหว่างฺ BTMU สาขากรุงเทพฯยังไม่เสร็จแต่มีแผนจะปล่อยสินเชื่อซัพพลายเชนซึ่งเป็นโอกาสในการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรในปีนี้โดยที่ยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะซบเซาแค่ไหนที่สำคัญการเติบโตสินเชื่อที่ระดับ 9%นั้นจะโฟกัสกลุ่มเอสเอ็มอีและธุรกิจรายใหญ่ ที่ธนาคารตั้งใจจะปล่อยกู้ทั้งซัพพลายเชน โดยเฉพาะบรรษัทขนาดใหญ่ที่ยังมีความต้องการสินเชื่อเพื่อไปขยายหรือลงทุนนอกประเทศและธุรกิจบรรษัทเหล่านี้จะมีความทนทานต่อสถานการณ์ที่อ่อนไหวได้"
    เมื่อถามถึงแผนการดำเนินงานในระยะ 3-5ปีนั้น นายโนริอากิ โกโตะกล่าวว่าตั้งใจจะบริหารธนาคารแห่งนี้ให้เป็นองค์กรที่ครบเครื่องทั้งโปรดักต์และตอบสนองบริการลูกค้าทุกกลุ่มอย่างครอบคลุมและสามารถเดินไปข้างหน้าระยะยาว  ในปีนี้อยู่ระหว่างควบรวม BTMU สาขากรุงเทพฯซึ่งทำธุรกิจในไทยมาแล้ว 50ปี และเป็นธนาคารต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย  เมื่อควบรวมกับบมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา นอกจากจะเสริมให้ธุรกรรมลูกค้าบริษัทต่างชาติหรือบริษัทระดับโลกติดต่อได้ง่ายขึ้นด้วยสายสัมพันธ์ของ BTMU แล้วยังเพิ่มความหลากหลายและมีความสามารถทำตลาดและให้บริการลูกค้ามากขึ้นโดยไม่ทิ้งรายย่อย
    ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ ซีอีโอมองว่า ยังไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะซบเซาแค่ไหน  อีกทั้งยังยากต่อการจะคาดการณ์แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)จะเพิ่มหรือลด แต่เอ็นพีแอลเริ่มขยับขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนซึ่งสัญญาณไตรมาสแรกของปีนี้ยังทรงตัว แต่โดยรวมจะพยายามรักษาระดับเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับ 2.5%จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 2.7% คิดเป็นมูลค่า 17 พันล้านบาทซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเอ็นพีแอลของธนาคารทยอยปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 
    ขณะที่ 5ปี(2552-2556)สินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์เติบโตต่อเนื่องเห็นได้จาก  อัตราส่วนของการเจริญเติบโตเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 11% สิ้นปีก่อนอยู่ที่ 13.7% ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจสะท้อนยุทธศาสตร์การบริหารความเสี่ยงของธนาคาร โดยสินเชื่อรายย่อยเติบโต 15.4% สินเชื่อธุรกิจ 15%สินเชื่อเอ็สเอ็มอี 9% สอดคล้องกับกับเงินรับฝาก ตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้เติบโต12%(เฉพาะเงินฝากโต 11%ซึ่งมีเงินฝากออมทรัพย์และสะสมทรัพย์อยู่ที่ 53%) ด้านความสามารถในการทำกำไรยังคงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิให้อยู่ในระดับ 4.2%
    สำหรับนโยบายจ่ายเงินปันผลนั้น สิ้นปี 2556 แม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวคณะกรรมการของธนาคารยังคงระดับจ่ายเงินปันผลในอัตรา 40.9%ของกำไรสุทธิรวม 1.18 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 0.80สตางค์ต่อหุ้นที่ผ่านมาได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.40%ที่เหลือกำหนดจ่ายในวันที่ 7พฤษภาคม 2557


ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  หน้า14 ปีที34 ฉบับที่ 2,939 วันที่ 13-16 พ.ศ.2557 ..

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีชู 4 แนวทางบริหารความมั่งคั่ง เน้นการให้บริการอย่างครบวงจร



กรุงเทพฯ (26 มีนาคม 2557) -- กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) โดยธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ประกาศแผนและ
กลยุทธ์ธุรกิจในปี 2557 โดยจะมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ปรับขั้นตอนการทำงานเพื่อ
เพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองต่อลูกค้าให้รวดเร็วขึ้น และการจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและ
ตัดสินใจลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาด พร้อมมั่นใจการสนับสนุนของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป
(MUFG) จะช่วยต่อยอดการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝาก การลงทุน ประกันภัย และธนบดี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กล่าวว่า “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น มีการกระจายความมั่งคั่งสู่หัวเมืองในต่างจังหวัดมากขึ้น
และเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันคนไทยก็มีทางเลือกในการลงทุน
เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองมากขึ้นนอกจากการฝากเงินอย่างเดียว ทั้งการลงทุนในตลาดทุน หุ้นกู้ตราสารหนี้ ประกันชีวิตและ
กองทุนรวม ดังนั้นเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่ท้าทายนี้ การพัฒนาแผนการดำเนินธุรกิจของเราจึงมุ่งเน้นให้ลูกค้าเป็น
ศูนย์กลาง (Customer centric) ทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถนำเสนอบริการที่สอดคล้อง
กับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะสามารถต่อยอดความมั่งคั่งให้กับลูกค้า และส่งผลให้ธนาคาร
เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

กรุงศรีจับมือสยามคูโบต้าสนับสนุนภาคการเกษตรอย่างครบวงจร อีกหนึ่งความสำเร็จของ ‘กรุงศรี แวลูเชน โซลูชั่นส์’



กรุงเทพฯ (8 มกราคม 2556) – ธนาคารกรุงศรี และบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ บริษัทในเครือกรุงศรี
พร้อมด้วยพันธมิตร บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผนึกความร่วมมือ เปิดตัวโครงการสินเชื่อเพื่อการค้าขาย
“กรุงศรี แวลูเชน โซลูชั่นส์” สนับสนุนภาคการเกษตรไทยอย่างครบวงจร โดยเสนอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ
ผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลทางการเกษตรของคูโบต้าทั่วประเทศ และยัง
สนับสนุนสินเชื่อเช่าซื้อรถแทรกเตอร์เพื่อการเกษตร ช่วยขยายโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย
ถือเป็นความอีกหนึ่งก้าวของความสำเร็จของโครงการสินเชื่อ แวลูเชน โซลูชั่น

ในภาพ: นายสยาม ประสิทธิศิริกุล (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา พร้อมด้วย
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด ในพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือ
โครงการสินเชื่อเพื่อการค้าขาย “กรุงศรี แวลูเชน โซลูชั่นส์” กับนายวรพจน์ แสงทวีสิน (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและ
วางแผน บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2557

กรุงศรี SME ผนึกเครือข่าย MUFG และความแข็งแกร่งของเครือกรุงศรี



กรุงศรี SME ผนึกเครือข่าย MUFG และความแข็งแกร่งของเครือกรุงศรี รุกกลุ่มซัพพลายเชน
· เน้นอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
· พร้อมตอกย้ำแบรนด์ ‘กรุงศรี SME’ สร้างเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแรง
กรุงเทพฯ (20 มีนาคม 2557) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) โดยกรุงศรี SME ได้ประกาศแผนและกลยุทธ์ธุรกิจปี 2557 ในวันนี้ว่าจะมุ่งให้ความสำคัญกับการขยายไปสู่กลุ่มธุรกิจที่อยู่ในเครือข่าย หรือซัพพลายเชน (supply chain) โดยการสนับสนุนของผู้ถือหุ้นใหญ่เชิงกลยุทธ์รายใหม่ของกรุงศรี คือธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ซึ่งถือหุ้น 100% โดย มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) และความแข็งแกร่งของเครือกรุงศรี ทั้งกรุงศรี ออโต้ และ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ มั่นใจปีนี้โตตามเป้าที่ 12.4%