.jpg)
กรุงเทพฯ (18 เมษายน 2557) -- กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) วันนี้ได้รายงานผลกำไรสุทธิ
ไตรมาส 1/2557 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2556 ซึ่งเป็นผลจากการตั้งสำรองพิเศษใน
ไตรมาส 4/2556 และลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2556 ในภาวะที่เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจาก
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ไตรมาส 1/2557 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2556 ซึ่งเป็นผลจากการตั้งสำรองพิเศษใน
ไตรมาส 4/2556 และลดลง 18.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2556 ในภาวะที่เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจาก
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงและความไม่แน่นอนทางการเมือง
สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญ สำหรับไตรมาส 1/2557
• เงินให้สินเชื่อ: หดตัว 0.4% คิดเป็นสินเชื่อที่ลดลงจำนวน 3.7 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556
• การเติบโตของเงินรับฝาก: เพิ่มขึ้น 2.2% คิดเป็นจำนวน 16.5 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556
• กำไรสุทธิ: อยู่ที่จำนวน 3.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 223.5% จากไตรมาส 4/2556 หรือลดลง 18.8% จากไตรมาส 1/2556
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): ปรับลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 4.22%
• รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ: หดตัว 5.7% จากไตรมาส 4/2556 และ 2.5% จากไตรมาส 1/2556 ซึ่งเป็นผลจาก
ค่าธรรมเนียมจากการให้กู้ ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเช่าซื้อ และค่าธรรมเนียมบริการบัตรที่ลดลง
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 50.1% เมื่อเทียบกับ 50.9% ในไตรมาส 4/2556
• อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ: อยู่ที่ 2.97% เทียบกับ 2.67% ในเดือนธันวาคม 2556 การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ
เป็นผลจากสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อเพื่อรายย่อย ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและภาระ
หนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
• อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: แข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 134.5%
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 14.4% เมื่อเทียบกับ 14.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2556