กิจกรรมระหว่างภาคเรียน



เยี่ยมชมงานพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย

ประวัติพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย
           ตั้งแต่ก่อธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ( มหาชน ) ตั้งมาจนถึงปัจจุบัน ธนาคารมีเอกสารสำคัญ และเครื่องมือเครื่องใช้จำนวนมาก อันบ่งบอกถึงวิวัฒนาการแห่งความเจริญก้าวหน้าในระบบการเงินการธนาคารของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพในอดีตได้อย่างชัดเจน และด้วยตระหนักถึงคุณค่าของความรู้อันสืบเนื่องมาจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของระบบการเงินการธนาคาร ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่า และเป็นของหายากในปัจจุบัน ธนาคารจึงได้จัดสร้าง “ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ” ขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ในการจัดแสดงสิ่งของล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ด้านการเงินการธนาคารของชาติ สำหรับเป็นแหล่งค้นคว้าด้านวิชาการ อันเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ซึ่งสามารถใช้เป็นที่ค้นคว้าเพิ่มเติมต่อไปได้
พิพิธภัณฑ์ เริ่มเปิดดำเนินการที่อาคารสำนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย เมื่อปี พ.ศ. 2526 และได้ย้ายมาจัดแสดงที่สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2539 ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย และในโอกาสครบรอบ 100 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีการปรับปรุงและได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ 30 มกราคม 2550 ในวาระครบรอบ 100 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์



วิวัฒนาการเงินตรา



ก่อนที่จะนำเงินตรามาใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายกันดังในปัจจุบัน คนเราได้นำระบบการแลกเปลี่ยนผลิตผลของตน กับสิ่งอื่นที่ต้องการมาใช้ตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์แล้ว แต่การแลกเปลี่ยนโดยตรงที่กล่าวนี้ไม่สะดวก เนื่องจากผลิตผลบางชนิด เป็นสิ่งมีชีวิต เช่น สัตว์เลี้ยงไม่สามารถตัดแบ่งกันได้ สินค้าที่นำมาแลกเปลี่ยนกัน มีคุณภาพไม่เท่ากัน นอกจากนี้ความต้องการของผู้ที่มีผลิตผล ที่ต้องการจะแลกเปลี่ยนทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกัน การแลกเปลี่ยนจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้
เพื่อให้การแลกเปลี่ยนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย คนเราจึงเริ่มนำเอาวัตถุมีค่าบางชนิด ซึ่งถือกันว่า เป็นของมีค่าในสังคมขณะนั้น มาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน วัตถุที่นำมาใช้เป็นสื่อกลางนี้ มีหลากหลายชนิดแตกต่างกันไปในแต่ละสังคม และยุคสมัย เช่น ปศุสัตว์ ลูกปัด เกลือ เปลือกหอย ขนนก ขวานหิน หัวลูกธนู หนังสัตว์ ฟันปลาวาฬ เครื่องประดับ โลหะต่าง ๆ เป็นต้น
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คนเราได้นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน จึงเกิดระบบการแลกเปลี่ยน โดยใช้สื่อกลางขึ้น ในบรรดาสิ่งต่างๆ ที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน มากมายหลายชนิดนั้น แร่เงินและแร่ทองคำ มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า ผลิตผลทางการเกษตร เช่น หายาก คงทน ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทอนค่าลงได้ โดยไม่เสียคุณสมบัติเดิม หลอมรวมกันเป็นก้อนใหญ่ขึ้นได้ พกพาสะดวก ทำเครื่องประดับได้งดงาม ผู้คนในสังคมต่างๆ ทั่วโลก จึงนิยมใช้โลหะทั้งสองชนิด เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์

วิวัฒนาการธนาคาร

การเก็บอาหารและสิ่งมีค่านั้น เป็นนิสัยอย่างหนึ่ง ที่คนเราประพฤติปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยโบราณ ควบคู่กับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติแล้ว เมื่อมีการนำสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเข้ามาใช้ การเก็บรักษาทรัพย์สินตลอดจนอาหาร จึงค่อยๆ เปลี่ยนรูปมาเป็น การเก็บออมสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน สถานที่ซึ่งสามารถอำนวยความปลอดภัย ในการเก็บรักษาสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนจึงเกิดขึ้น
ต่อมา สถานที่รับฝากเหล่านี้ ได้นำสิ่งของสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ที่รับฝากไว้ และมีจำนวนมากออกให้ยืม โดยได้รับผลตอบแทน กิจการธนาคารจึงเกิดขึ้น
ครั้นเมื่อมีการนำโลหะเงิน และโลหะทองมาใช้เป็นเงินตราแล้ว ด้วยมาตรฐานของเงินตรา ที่เป็นโลหะที่มีคุณสมบัติเหมือนกันทุกชิ้น จึงทำให้เกิดความสะดวก ในการชำระหนี้มากขึ้น การค้าขายจึงแพร่หลาย กว้างขวางมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อการเดินเรือสามารถทำได้กว้างขวางขึ้น การค้าขายทางทะเล ก็สามารถทำได้กว้างขวางตามไปด้วย ความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างสกุล ซึ่งมีน้ำหนัก และความบริสุทธิ์ของเนื้อเงินต่างกันก็เกิดขึ้น การส่งเงินไปชำระหนี้ และการรับฝาก การเรียกเก็บเงิน การให้กู้ยืมเงิน จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจการธนาคาร แพร่หลายและรุ่งเรืองต่อมา

ต้นแบบธนาคารไทย

การติดต่อและค้าขายกับต่างประเทศ ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นเหตุสำคัญ ทำให้ต่างประเทศเห็นเป็นช่องทาง ที่จะหาประโยชน์ จากการที่ประเทศไทยขาดธนาคาร ที่จะทำธุรกิจ การธนาคารพาณิชย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ จึงได้เข้ามาเปิดสาขา ดำเนินกิจการในประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่ พุทธศักราช 2431 เป็นต้นมา
และในที่สุด สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ทั้ง 3 แห่ง ได้จัดพิมพ์ และนำบัตรธนาคาร เข้ามาใช้ในระบบการเงินของไทยด้วย ในระยะต่อมาด้วยความสำคัญของธุรกิจการธนาคาร ที่มีต่อการค้าและเศรษฐกิจของประเทศนั้น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย เสนาบดี กระทรวงพระคลังมหาสมบัติในขณะนั้น จึงทรงคิดตั้ง ธนาคารของชาติ หรือธนาคารกลางขึ้นก่อน เพื่อที่จะให้เป็น ตัวแทนทางการเงินของรัฐบาล แล้วยังจะทรงให้ ธนาคารของชาตินี้ เป็นผู้พิมพ์ธนบัตรของประเทศขึ้น และนำออกใช้อีกด้วย แต่ก็ต้องทรงระงับความคิดนี้ไว้
เนื่องจากบรรดาที่ปรึกษาทางการเงิน ชาวต่างประเทศพากันคัดค้าน พระองค์จึงทรงหันไป ปรับปรุงมาตราหน่วยเงินของไทย ให้เป็นระเบียบ แต่เพียงประการเดียว โดยทรงพิจารณา ลดหน่วยเงินตราของไทยลง จากเดิม 9 หน่วย ได้แก่ ชั่ง ตำลึง บาท สลึง เฟื้อง ซีก เสี้ยว อัฐ และโสฬส ให้เหลือเพียง 2 หน่วย ได้แก่ “บาท” และ “สตางค์” อันเป็นระบบทศนิยม ทำให้สะดวกแก่การคิดคำนวณ และลงบัญชี ในพุทธศักราช 2441 พร้อมกับได้เริ่มติดต่อกับประเทศอังกฤษ เพื่อพิมพ์ธนบัตร เข้ามาใช้ใน พุทธศักราช 2445
ระบบการเงินของไทย จึงประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ และธนบัตร เมื่อได้จัดรูปแบบของ ระบบเงินตราของประเทศเรียบร้อยแล้ว จึงประกาศยกเลิกการใช้เงินพดด้วง ชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม พุทธศักราช 2447
ส่วนทางด้านความคิด จะจัดตั้งธนาคารขึ้นนั้น เมื่อยังไม่สามารถ จัดตั้งธนาคารของรัฐขึ้นได้ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย จึงทรงหันไปพิจารณา ธนาคารของเอกชน หรือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งทรงตระหนักดี ถึงความจำเป็นของประเทศ ที่ต้องมีการค้าขายกับต่างประเทศ ซึ่งมีปริมาณสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังทรงเห็นถึงความยากลำบาก ของบรรดาพ่อค้าชาวไทย และจีน ที่ต้องติดต่อขอใช้บริการจาก สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ ที่มีอยู่ในขณะนั้น แต่ก็มิได้รับความสะดวก ประกอบกับ การที่ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นของคนไทยมารองรับ
พระองค์จึงทรงตัดสินพระทัย ที่จะจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ขึ้นมาให้จงได้ จึงทรงเห็นว่า น่าที่จะทดลองดำเนินงานดูก่อน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ มีความรู้ในการบริหารธนาคารขึ้นแล้ว เมื่อจะขยายกิจการให้ใหญ่โตต่อไป ก็จะสามารถนำประสบการณ์ ไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้
ที่สำคัญคือ เป็นการฝึกให้ชาวไทย มีความรู้ในด้านการบริหารธนาคารพาณิชย์อีกด้วย พระองค์ทรงจัดหาเงินลงทุนได้ จำนวน 30,000 บาทแล้ว ก็ทรงเตรียมการจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก โดยยื่นขออนุญาตจัดตั้ง “บุคคลัภย์” ขึ้น เริ่มสั่งซื้อกระดาษ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่าง ๆ ติดต่อขอเช่าตึกแถวของพระคลังข้างที่ ตำบลบ้านหม้อ พร้อมทั้งจัดหาพนักงาน รวมทั้งผู้จัดการไว้ เตรียมทำพิธีเปิดดำเนินการต่อไป เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว

ไทยพาณิชย์กับการก้าวสู้ยุคปัจจุบัน

ภาพพจน์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ปรากฏในความรู้สึกของสาธารณชน คือ ความมั่นคง มีผู้บริหารมืออาชีพ มีความเจริญเติบโตสูง เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีการธนาคาร ในขณะที่มุ่งเน้น การนำเทคโนโลยีใหม่ มาบริการแก่ลูกค้า แต่ก็สามารถรักษาผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น ลูกค้าและพนักงานของธนาคาร
การนำเทคโนโลยี เข้ามาให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากจะอำนวยความสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังคำนึงถึงการเพิ่มคุณค่า ในบริการที่ให้แก่ลูกค้า และการแพร่ขยายธุรกิจไป ในด้านต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ธนาคาร ได้นำระบบบริการเงินด่วน ATM เข้ามาบริการแก่ลูกค้า เป็นธนาคารแรกในประเทศไทยแล้ว ก็ดูเหมือนว่า เป็นก้าวสำคัญ ของการเปลี่ยนแปลงของการธนาคารพาณิชย์ไทย ไปสู่การเป็นธนาคารใน ระบบธนาคารพาณิชย์ สมัยใหม่ จากนั้นธนาคาร ได้สร้างศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ ไทยพาณิชย์ขึ้น เพื่อเก็บสำรองข้อมูล และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา และให้บริการแก่ลูกค้า และยังใช้เป็นข้อมูล ในการตัดสินใจด้านการบริหารที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย



สนุกสนานกับยุคปัจจุบันของ SCB

ก้าวเท้า....เข้าสู้ยุคปัจจุบัน เย้ๆ



ลงทะเบียนกันจ้า สาวๆ





วาดรูปเล่นกัน  สีสันสดใสจริง




เยี่ยมชมงานมหกรรม Money Expo ครั้งที่ 14



“ กรุงศรี กองทุนเด่น ”
กองทุนประเภทสะสมทรัพย์ตราสารหนี้ ( Money Market Treasury )



กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเพิ่มทรัพย์ (KFSPLUS) ของ บลจ.กรุงศรี มีผลการดำเนินงานย้อนหลังช่วงระยะเวลา 1 ปี อยู่ที่ 18.97 โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 19.25  บาท  และมีขนาดลงทุน 36,892 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความมั่นใจมากขึ้น กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเพิ่มทรัพย์เหมาะสมสำหรับเงินลงทุนของผู้มีเงินออมที่สามารถลงทุนระยะยาวและยอมรับความเสี่ยงได้บางส่วน เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะปานกลางถึงระยะยาว 

กองทุนประเภทเพื่อการเลี้ยงชีพตราสารหนี้ทั่วไป ( RMF Fixed Income )




กองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGOVRMF) ของ บลจ.กรุงศรี มีผลการดำเนินงานย้อนหลังช่วงระยะเวลา 1 ปี อยู่ที่ 2.68 โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 13.28  บาท  และมีขนาดลงทุน 2,550 ล้านบาทโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะระดมเงินออม เพื่อนำเงินไปลงทุนให้ได้มาซึ่ง ผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาว เพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุของผู้ถือหน่วยลงทุน และมีนโยบายเน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งตราสารอื่นใดที่รัฐบาลเป็นผู้ออกและเป็นผู้ค้ำประกันไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่า

ทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาปีบัญชีของกองทุน ตลอดจนตราสารแห่งหนี้หรือหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก... กำหนด หรือให้ความเห็นชอบให้ลงทุนได้

ทั้งนี้ บริษัทจัดการอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management) ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) และกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง(Structured Note)

ฟรีความรู้  ฟรีของแจก  เล่นเกมกันมันส์สุดๆเลย  



บรรยายการบูธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา


มาทั้งทีถ่ายกับป้ายสักนิด  ให้รู้ว่าถึงแล้ว ฮิฮิ




 เวทีเฟ้นหาสุดยอดคนรุ่นใหม่ บนเส้นทางการเงิน




ลงทะเบียนก่อนเข้าสอบจ้า ^___________^


ถึงจะตึงเครียดกับการสอบ....แต่ไม่ป็นผลกับการถ่ายภาพค่ะ


โครงสร้างองค์กร ( กรณีศึกษา )





รูปแบบการจัดองค์การของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด( มหาชน )
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด( มหาชน ) มีรูปแบบการจัดองค์การแบบแมททริกซ์ Matrix Structure เนื่องจากธนาคารเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่ และมีการจัดหน่วยงานการทำงานที่ซับซ้อน  โดยธนาคารดำเนินไปด้วยการบริหารจัดการและการทำงานของฝ่ายจัดการตลอดจนพนักงาน ภายใต้การนำของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และมีคณะกรรมการธนาคารซึ่งได้รับการรับเลือกจากผู้ถือหุ้นให้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานในภาพรวม  เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ได้มีการดูแลผลประโยชน์ระยะยาวของผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงธนาคารมีการตอบสนองตรงตามความต้องการของลูกค้าได้  เกิดจากโครงสร้างขององค์กรที่มีความยืดหยุ่น  ทำให้สามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ตลอดเวลา


ลักษณะการจัดองค์การของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด( มหาชน )

        1. Organization Chat รวมของทั้งระบบ
           เริ่มจากคณะกรรมการของธนาคาร ประกอบด้วยคณะกรรมการธนาคาร และคณะกรรมการชุดย่อยที่คณะกรรมการ
ธนาคารได้แต่งตั้งขึ้น เพื่อช่วยในการกำกับดูแลกิจการของธนาคาร ดังนี้


    •     คณะกรรมการธนาคาร ทำหน้าที่ในการพิจารณาให้กรอบแนวทางการดำเนินงานและเป้าหมายเชิงธุรกิจในภาพรวม
     อนุมัติแผนธุรกิจประจำปีและงบประมาณที่ฝ่ายการจัดการนำเสนอ รวงทั้งดูแลให้มีนโยบายการกำกับดูแลกิจการ   
     ประกอบด้อย   12 ท่าน ได้แก่ 

    1. นายวีระพันธุ์          ธีปสุวรรณ             ประธานกรรมการ
    2. นายคาเนทสุกุ        มิเกะ                     รองประธานกรรมการ
    3. นายการุณ                กิตติสถาพร             กรรมการอิสระ
    4. นางสาวพจนีย์        ธนวรานิช               กรรมการอิสระ
    5. นายพงศ์อดุล          กฤษณะราช            กรรมการอิสระ
    6. นายวิรัช                 ไพรัชพิบูลย์              กรรมการอิสระ
    7. นายโนริอากิ          โกโตะ                         กรรมการ
    8. นายทาเคชิ              โอกาซาววารา           กรรมการ
    9. นายโกะ                  วาตานาเบะ                กรรมการ
    10. นางสาวนพพร       ติรวัฒนกุล                 กรรมการ
    11. นางเจนิส  แร แวน เอ็กเคอเรน                กรรมการ
    12. นายฟิลิป เชียง ชอง แทน                          กรรมการ                   

    •  คณะกรรมการตรวจสอบ  ทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีและรายงานทางการเงิน พิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน  ประกอบด้วย   3 ท่านได้แก่         

    1. นางสาวพจนีย์        ธนวรานิช           ประธานกรรมการ
    2. นายพงศ์อดุล          กฤษณะราช         กรรมการ
    3. นายวิรัช                 ไพรัชพิบูลย์           กรรมการ

    • คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน ทำหน้าที่กำหนดนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายในการสรรหากรรมการธนาคาร นโยบายการจ่ายค่าตอบแทน เป็นต้น     ประกอบด้วย 4 ท่าน ได้แก่    


    1. นายการุณ                กิตติสถาพร        ประธานกรรมการ
    2.  นายวิรัช                 ไพรัชพิบูลย์           กรรมการ

    3. นางสาวนพพร       ติรวัฒนกุล             กรรมการ
    4. นายคาเนทสุกุ        มิเกะ                        กรรมการ 

    •      คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง    ทำหน้าที่กำหนดนโยบายด้านการบริหารความเสี่ยง และควบคุมบริหารวามเสี่ยงในการทำธุรกิจของธนาคาร ประกอบด้วย  7 ท่าน ได้แก่ 

    1. นายโนริอากิ          โกโตะ                                           ประธานกรรมการ
    2. นางเจนิส  แร แวน เอ็กเคอเรน                               รองประธานกรรมการ

    3. นายฟิลิป เชียง ชอง แทน                                                    กรรมการ

    4. นายชานดาเชการ์ สุบรามาเนี่ยน คิสชูมันการัม              กรรมการ
    5. นางสาวดวงดาว     วงศ์พนิตกฤต                                       กรรมการ
    6. นายแสงชาติ           วนิชเวทย์พิบูล                                     กรรมการ
    7. นายพรสนอง         ตู้จินดา                                                    กรรมการ

    • คณะกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร  ทำหน้าที่ควบคุมการดำเนินงานต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบายของธนาคาร  ประกอบด้วย 9 ท่าน ได้แก่

    1. นายโนริอากิ          โกโตะ                                             ประธานกรรมการ
    2. นางเจนิส  แร แวน เอ็กเคอเรน                                   รองประธานกรรมการ
    3. นายฟิลิป เชียง ชอง แทน                                                    กรรมการ
    4. นางสาวดวงดาว     วงศ์พนิตกฤต                                       กรรมการ
    5. นายชานดาเชการ์ สุบรามาเนี่ยน คิสชูมันการัม              กรรมการ
    6. นางสาวภาวนา      เนียบลอย                                              กรรมการ
    7. นางวรรณา             ธรรมศิริทรัพย                                       กรรมการ

    8. นายพรสนอง         ตู้จินดา                                                   กรรมการ
            9.นายทาคาโนริ        ซาซากิ                                                    กรรมการ 

    • คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ทำหน้าที่ให้คำแนะนำในหลักการและข้อพึงปฎิบัติที่สำคัญชองกระบวนการกำกับดูแลกิการที่มีประสิทธิผลเหมาะสมสำหระบธนาคาร ประกอบด้วย 8 ท่านได้แก่       

      1. นายพงศ์อดุล          กฤษณะราช                                  ประธานกรรมการ 
      2. นางสาวภาวนา      เนียบลอย                                      รองประธานกรรมการ

      3. นายทาเคชิ              โอกาซาววารา                                    กรรมการ
      4. นางสาวดวงดาว     วงศ์พนิตกฤต                                    กรรมการ

      5. นายชานดาเชการ์ สุบรามาเนี่ยน คิสชูมันการัม            กรรมการ
      6. นายพงษ์อนันต์      ธณัติไตร                                              กรรมการ
      7. นางวรรณา              ธรรมศิริทรัพย                                     กรรมการ
        8.นายทาคาโนริ         ซาซากิ                                                  กรรมการ 


      •  คณะกรรมการพิจารณาสินเชื่อ มีอำนาจพิจารณาอนุมัติสินเชื่อละการดำเนินการใดๆที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ


       ประกอบด้วย  6 ท่าน ได้แก่ 
        1. นายชานดาเชการ์ สุบรามาเนี่ยน คิสชูมันการัม       ประธานกรรมการ
        2. นายพรสนอง         ตู้จินดา                                                  กรรมการ
        3. นายสยาม                ประสิทธิศิริกุล                                    กรรมการ
        4. นายฮิโรโนริ          โอกาดะ                                                 กรรมการ  
        5. นายโคอิชิ               โอกาวา                                                  กรรมการ 
        6. นายณัฐวิทย์            บุญวัฒน์                                                กรรมการ

                  2. Organization Chat ของสายงานต่างๆ
        ธนาคารจะแบ่งกลุ่มงานออกเป็น 2 ลักษณะตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ประกอบด้วย กลุ่มงานธุรกิจ และกลุ่มงาน
        สนับสนุน


















        3. Organization Chat ของฝ่ายต่างๆ ในสำนักงานใหญ่
        ฝ่ายต่างๆ จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบตาม Functional ของฝ่ายที่ได้รับมอบหมาย โดยจะอยู่ภายใต้กรอบแนวทาง
        การดำเนินงานตามเป้าหมายที่ได้วางไว้  จากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และมี
        คณะกรรมการธนาคารซึ่งได้รับการรับเลือกจากผู้ถือหุ้นให้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงาน

        4. Organization Chat ของสำนักงานเขตและสาขา 
        สาขาในประเทศมีสาขาทั้งหมด 614 สาขา โดยแบ่งเป็น 

        • กรุงเทพและปริมณฑล 272 สาขา  
        • ส่วนภูมิภาค  338 สาขา  

         สาขาต่างประเทศ 4 สาขา 

        • Hongkong        1  สาขา
        • Vientiane           1  สาขา
        • Savannakhet     1  สาขา
        • Cayman Island  1 สาขา


        โดยสาขาของธนาคารจะได้รับมอบอำนาจจากสำนักงานใหญ่ในการบริหารดูแล และสนับสนุน
        ให้สามารถทำธุรกิจแข่งขันกับธนาคารอื่นได้ โดยในแต่ละสาขาจะมีผู้จัดการสาขาเป็นผู้ควบคุมดูแลกิจการใน
        การดำเนินการให้บรรลุตามเป้าหมาย



        ที่มา  รายงานประจำปี 2557



        อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ
        อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ (ดอกเบี้ยอ้างอิง) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่ธนาคารพาณิชย์ใช้อ้างอิง
        ในการเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากลูกค้า ได้แก่
                     อัตราดอกเบี้ยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)





















        กรณีศึกษาเรื่อง การวิเคราะห์งบแสดงฐานะการเงิน

        ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด ( มหาชน ) และบริษัทย่อย
        งบแสดงฐานะการเงิน
        ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556








        ที่มา http://www.krungsri.com/th/banking-rates04.aspx?flag=0 วันที่ 21 มีนาคม  2557
        http://www.bot.or.th/Thai/FinancialLiteracy/interest/Pages/interest2.aspx




        การแสดงธนาคารกรุงศรีอยุธยา















        การตลาดของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ((BAY

        คำขวัญ บึกแผ่นเป็นแก่นสาร   บริการเป็นกันเอง

        วิสัยทัศน์ : ทีมงานมืออาชีพที่มีความสามารถและเป็นหนึ่งเดียว
              พร้อมมุ่งมั่น สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการชั้นเลิศ
              เพื่อเป็นกลุ่มการเงินอันดับหนึ่งในใจลูกค้า
        กลยุทธ์การสร้างความแตกต่า
        รูปแบบการสร้างความแตกต่างมี 5 รูปแบบ คือ
        1.การสร้างความแตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เป็นการสรรางความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็ก็คือ บริการต่างๆที่ธนาคารให้กับลูกค้า เช่น  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  : เงินฝาก โตเอ๊า โตเอา ถอนเมื่อไรดอกก็ดี  ลูกค้าสามารถอนเงินสดจากบัญชีเงินฝากประจำตลอดเวลาและยังคงได้รับดอกเบี้ย




        2.การสร้างความแตกต่างในบริการ เป็นการสร้างความแตกต่างโดยเน้นที่บริการประกอบอื่นๆที่ให้กับลูกค้ เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา   สามารถเลือกชำระค่าสินค้าและบริการของบริษัทต่างๆ ที่ธนาคารฯ ให้บริการรับชำระเงินผ่าน 4 ช่องทาง เคาน์เตอร์สาขาธนาคาร 
        ชำระด้วยบาร์โค้ด ชำระด้วยการระบุข้อมูล และกรุงศรีออนไลน์ เป็นบริการที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ในการชำระค่าสินค้าและบริการกว่า 1,000 รายการ

        3.การสร้างความแตกต่างในบุคลากร เป็นการสร้างวามแตกต่างให้เกิดขึ้นกับพนักงงานของธนาคาร เช่น ธนาคากรุงศรีอยุธยา   

         1.ตั้งมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และเที่ยงธรรมต่อลูกค้า
        2.สนองความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีเลิศอย่างเสมอภาค
        3. ใหข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนถูกต้องเป็นธรรม ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงแก่ลูกค้า
        4. เห็นคุณค่าและให้เกียรติลูกค้าอยู่เสมอ
        5. รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะและพร้อมจะชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริง






        กลยุทธ์การตลาดของธนาคาร 4P’s 

        1.ผลิตภัณฑ์ของธนาคาร  ธนาคารพาณิชย์สามารถจำแนกผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ฯคือ
         ผลิตภัณฑ์หลัก :
          1.1 ธนาคารค้าปลีก (Retail Banking) เป็นการให้บริการลูกค้าที่ประชาชนทั่วไป บริการหลักๆ ดังนี้

                      บริการเงินฝาก
         -เงินฝากออมทรัพย์ เป็นเงินฝากประเภทที่ลูกค้าสาขา ฝาก-ถอนได้ทุกเวลาทุกสาขา เช่น บัญชีออมทรัพย์กรุงศรี ทีนพลัส,บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ,บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ
        -เงินฝากประจำ เป็นเงินฝากประเภทที่ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมเชทรัพย์ เช่น บัญชีฝากประจำทั่วไป,
        บัญชีฝากประจำกรุงศรี ทีนพลัส,เงินฝากประจำกรุงศรี ปลอดภาษี 24 เดือน,เงินฝากประจำกรุงศรี เซฟเวอร์ พลัส
        -เงินฝากกระแสรายวัน เป็นเงินฝากประเภทที่ลูกค้าสามารถใช้เช็คในการถอนเงินสดหรือเปลี่ยมือกันได้ เป็นเงินฝากประเภทที่สะดวกในการใช้แต่ไม่มีดอกเบี้ย เช่น ดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ด้วยจำนวนเงินเริ่มต้นขั้นต่ำ 10,000 บาท
        -บริการรับเงินฝากตราต่งประเทศ เลือกเปิดบัญชีได้ 12 สกุลเงิน (1สกุลเงินต่อ 1บัญชี) ดังนี้ USA,GBP,EUR.JPY,AUD,CHF.HKD,SGD,NOK,SEK,DKK,CNY

               บริการด้านสินเชื่อสำหรับประชาชน

         -สินเชื่อบ้านกรุงศรี เช่น สินเชื่อบ้านกรุงศรี เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย,สินเชื่อคอนโด,สินเชื่อบ้านกรุงศรีเพื่อบ้านมือสอง, สินเชื่อบ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
         -สินเชื่อรถยนต์ เช่น กรุงศรีออโต้  ,ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ
        -สินเชื่อสวัสดิการ เช่น สินเชื่อสวัสดิการเงินกู้อเนกประสงค์ส่วนบุคคล, สินเชื่อสวัสดิการเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค  , สินเชื่อสวัสดิการสำหรับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
         -บริการเบิกถอนบัญชีกระแสรายวันต่างสาขา (Cheque Express)   บริการที่ให้ความคล่องตัวกับผู้ทรงเช็คของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
        -บริการที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ในการชำระค่าสินค้าและบริการกว่า 1,000 รายการ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ฯลฯ ผ่านช่องทางของธนาคาร ได้แก่ เคาน์เตอร์สาขาธนาคาร เครื่องกรุงศรี ATM บริการกรุงศรีออนไลน์ กรุงศรีโฟน 1572 โดยธนาคารจะเป็นตัวกลางในการนำเนินของคุณส่งให้กับผู้รับชำระค่าสินค้าและบริการ
         -กรุงศรีออนไลน์บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต ช่วยคุณจัดการเรื่องการเงินในรูปแบบต่างๆ ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ง่ายสำหรับคุณ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาอีกต่อไป 

        1.2.ธนาคารสำหรับองค์กรธุรกิจ (Corporate Banking)

        -สินเชื่อ Quick Loan
        สินเชื่อระยะยาว : เงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan) บริการสินเชื่อเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อาทิ ซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน อาคารสถานประกอบการ หรือซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ ฯลฯ ชำระคืนเป็นรายเดือน และมีกำหนดระยะเวลาการกู้ยืมตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป และสูงสุดไม่เกิน 9 ปี
         สินเชื่อระยะสั้น : บริการสินเชื่อเพื่อเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ   อาทิ การซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์สำนักงาน และการจ่ายค่าแรงให้พนักงาน ฯลฯ
         -สินเชื่อทันใจ สินเชื่อพร้อมขยาย สินเชื่อกรุงศรี SME กู้ง่าย ได้สูงสุด 3 เท่า พร้อมผ่อนสบายนานสูงสุด 7 ปี ให้คุณขยายโอกาสทางธุรกิจได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นเพียงมี เงินฝากออมทรัพย์ หรือ หลักทรัพย์ เป็นหลักประกัน

        1.3 บริการการทำธุรกรรมต่างประเทศ

        -บริการโอนเงินระหว่างประเทศ บริการโอนเงินไปต่างประเทศ (Outward Remittance),บริการรับเงินโอนจากต่างประเทศ (Inward Remittance)
        -บริการนำเข้า-ส่งออก บริการเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต,บริการชำระเงินตามตั๋วเรียกเก็บสินค้าเข้า,บริการหนังสือค้ำประกันการรับสินค้า,บริการเปิดแสตนด์บายเลตเตอร์ออฟเครดิต,บริกาสินเชื่อเพื่อผู้นำเข้า  ทรัสท์รีซีท (T/R)
        -บริการรับเงินฝากตราต่งประเทศ เลือกเปิดบัญชีได้ 12 สกุลเงิน

        1.4 บริการเกี่ยวกับตลาดทุน เช่น กองทุนรวม ได้แก่ กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund) กองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีระยะเวลา (Term Fund), ตราสารการลงทุน ได้แก่ ธนบัตร ตั๋วเงินคลัง หุ้นกูภาคเอกชนเป็นต้น
               -บริการอื่นๆ เช่น บัตรของขวัญกรุงศรี

                 ผลิตภัณฑ์เสริม :
        1.สถานที่ของธนาคาร
                    ภายใน: เป็นระเบียบ สะอาด สะดวกในการติดต่อ มีบริเวณให้ลูกค้านั่รอ
                    ภายนอก: ตัวอาคารดูดี มีที่จอดรถให้ลูกค้า
        2.การบริการ ให้ความต้องการของลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการที่ดีเลิศอย่างเสมอภาคให้ข้อมูลข่าวสารที่ครบถ้วนถูกต้องเป็นธรรม ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงแก่ลูกค้า เห็นคุณค่าและให้เกียรติลูกค้าอยู่เสมอ สนับสนุนและส่งเสริมให้ลูกค้ามีการกํากับดูแลกิจการที่ดี
        3.บุคลากร  ให้บริการมีบุคลิกภาพที่ดี มีความเป็นมิตรหน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส พูดจาดี ให้คำแนะนำแก่ลูกค้าอย่างถูกต้องและเหมาะสม
        4.ความปลอดภัย  มีการตรวจสอบรายการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง, การติดตั้ง Firewall หลายชั้นป้องกันภัยจากผู้บุกรุก ,การเข้ารหัสข้อมูลด้วย SSL ระดับ 128 บิท, การรับรองเว็บไซต์ธนาคารโดยบริษัท Verisign Inc. เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ากำลังทำธุรกรรมทางการเงิน กับกรุงศรีออนไลน์อยู่จริงและปลอดภัย,ต้องใช้ User ID และ Password ในการเข้าสู่บริการทุกครั้ง, ระบบจะ Log out ให้โดยอัตโนมัติ หากไม่มีการเคลื่อนไหวนานเกิน 15 นาที
        5. เวลาทำการ  ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นหัวใจสำคัญของพันธสัญญาในการ“ทำเรื่องเงินให้เป็นเรื่องง่าย” กรุงศรีประสบความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำใหม่ๆหลายบริการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เช่น กรุงศรีออนไลน์, กรุงศรี Mobile Banking , Krungsri Mobile Application เป็นต้น
        6.การอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น เครื่องอัปเดตสมุดบัญชีเงินฝาก เครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ   

        2.ราคาหรืออัตราดอกเบี้ยของธนาคาร
        ราคา หมายถึง จำนวนเงินที่ผู้ขายกำหนดไว้สำหรับการขายสินค้าหรือบริการในธุรกรรมธนาคารพาณิชย์นั้น ราคาจะหมายถึงอัตรดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างงๆ ซึ่งเราสามารถจัดกลุ่มราคาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

        1.อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และประจำทุกประเภท
                                          

















        2.อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท





















        3. ค่าธรรมเนียนการให้บริการต่างๆ เช่น ธนาคารกรุศรีฯ ค่าธรรมเนียมบัตร บัตรของขวัญ กรุงศรี








        4.อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ


        ช่องทางการจัดจำหน่ายของธนาคาร
        ช่องทางการจัดจำหน่ายของธนาคาร หมายถึง วิธีการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ถ้าเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค วิธีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายจะต้องผ่านพ่อค้าคนกลางไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าส่งหรือพ่อค้าปลีก แต่ในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งขายบริการนั้น ธนาคารมักจะติดต่อกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งลูกค้าอาจมาติดต่อที่ธนาคารเองหรือธนาคารอาจออกไปหาลูกค้าก็ได้ ช่องทางการจัดจำหน่ายของธนาคารพาณิชย์นั้นมีลักษณะดังนี้ คือ

                      1.สำนักงานใหญ่หรือสาขา เป็นช่องทางแบบดั้งเดิมที่ธนาคารใช้ในการให้บริการกับลูกค้าและยังคงมีความสำคัญมากในปัจจุบัน ช่องทางที่ลูกค้าสามารถใช้ทำธุรกรรมได้ทุกประเภท ปัจจัยหลักที่ใช้ในการเลือกสถานที่ตั้งของสาขาก็คือ ย่านชุมชนและย่านธุรกิจที่มีการคมนาคมที่สะดวก มีที่จอดรถอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าช่องทางนั้นจะเป็นช่องทางที่ดีที่สุด แต่การขยายสาขาจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง ฉะนั้น จึงได้เกิดช่องทางใหม่ๆ ขึ้นมา เช่น ธนาคารกรุงศรีฯสาขาสำนักพระรามที่ 3 (สำนักงานใหญ่) (รหัสสาขา 777) 1222 ถนนพระราม3 แขวงบางโพงพาง  เขตยานนาวา จังหวัดกรุงเทพฯ 10120
                      2.สาขาย่อย เป็นสาขาขนาดเล็ก (Mini Branch) ที่เข้าไปตั้งอยู่บนสถานีรถไฟฟ้า หรือห้างสรรพสินค้า สาขาย่อยเหล่านี้จะให้บริการเฉพาะอย่างเท่านั้น เช่น ธนาคารกรุงศรีฯ มี610 แห่งทั่วประเทศ
                      3. เครื่อง ATM เป็นช่องทางที่ให้ลูกค้าสามารถถอน ฝาก และโอนเงินได้โดยอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมงเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพและมีต้นทุนต่ำ สามารถติดตั้งได้ทั่วไป เช่น ธนาคารกรุศรีฯมี ตู้เอทีเอ็มจำนวน 4,730 เครื่อง
                      4.ธนาคารโทรศัพท์ (Tele-Banking) และธนาคารออนไลน์ (Online Banking) เป็นช่องทางใหม่ที่ธนาคารในประเทศไทยได้นำเข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบยอดเงิน โอนเงินผ่านทางโทรศัพท์ธรรมดา โทรศัพท์มือถือ หรือทางอินเทอร์เน็ต (Internet) ได้ เช่น กรุงศรีออนไลน์  ได้แก่ บริการสอบถามยอดบัญชี ,บริการเรียกดู Statement บัตรเครดิต, บริการซื้อ-ขาย หลักทรัพย์/อนุพันธ์,บริการขอข้อมูลเครดิตบูโร (NCB),บริการโอนเงิน,บริการชำระค่าสินค้าและบริการ,บริการกองทุนรวมและอื่นๆ





        การส่งเสริมการตลาดของธนาคาร
                     การส่งเสริมการตลาดธนาคารเป็นเครื่องมือที่ธนาคารใช้ในการสนับสนุนการขาย ประกอบไปด้วย การโฆษณา(Advertising) การประชาสัมพันธ์ (Public Relation) ซึ่งจะรวมถึงการตลาดเชิงกิจกรรม (Event Marketing) ด้วยการส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) การขายโดยใช้พนักงานขาย (Personal Selling) และการตลาดทางตรง(Direct Marketing)

        การโฆษณา
        การโฆษณา หมายถึง กิจกรรมที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ใช้สื่อสารข้อมูลถึงกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าโดยผ่านสื่อประเภทต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ นิตยสาร อินเทอร์เน็ต เป็นต้น เช่น
                           1.โฆษณาบัตรเครดิตกรุงศรี: น่ารักอ่ะ  http://www.youtube.com/watch?v=x3oCBMpdJBg 
                           2.โฆษณา กรุงศรี ออโต้  http://www.youtube.com/watch?v=T621ugcUk7

        การประชาสัมพันธ์
        การประชาสัมพันธ์ หมายถึง กิจกรรมทางการตลาดเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์หรือภาพพจน์ที่ดีขององค์กรและผลิตภัณฑ์ งานการประชาสัมพันธ์นั้น มีหลายประเภท เช่น การมีส่วนร่วมในการออกแบบสัญลักษณ์ (Logo) และผลิตภัณฑ์ของธนาคาร การออกแบบชุดพนักงาน การตกแต่งสำนักงาน การบอกข่าวหรือแจ้งข่าวที่เกี่ยวข้องกับธนาคารไปยังสื่อมวลชนเพื่อให้เสนอข่าวหรือการแถลงข่าวเป็นการเชิญสื่อมวลชนมาฟังการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เช่น ธนาคารกรุงศรีฯ
                          1.ได้รางวัล “สุดยอดแคมเปญการตลาดแห่งเอเชีย” (Best MarketingCampaign in Asia - Silver Award) จาก APPIES 2013 ในเทศกาลแนวคิดชั้นนำทางการตลาดแห่งเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันแห่งการโฆษณาในสิงคโปร์สำหรับแคมเปญการตลาดของผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ “มีแต่ได้”
                          2.กรุงศรีและ Concept International Design ได้รับรางวัล Asia Pacific Property Awards 2013-2014 สำหรับผลงาการออกแบบตกแต่งภายในใหม่สำหรับสาขาของธนาคารเพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ใหม่ของกรุงศรี เป็นต้น

        การส่งเสริมการขาย
        การส่งเสริมการขาย หมายถึง กิจกรรมทางการตลาดที่มีขึ้นเพื่อกระตุ้น ให้เกิดยอดขายในระยะเวลาอันสั้น การทำการส่งเสริมการขายมีมากมายหลายวิธีด้วยกัน เช่น การลดราคา การชิงโชค การแลกซื้อ การแจกของแถม การให้ทดลองใช้ฟรี การแจกของตัวอย่าง เป็นต้น ในอดีต การใช้การส่งเสริมการขายในธุรกิจธนาคารมีไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันที่การแข่งขันรุนแรง กลยุทธ์การส่งเสริมการขายจึงได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เช่น ธนาคารกรุงศรีฯ
                        1.SMS  รู้ไว ไม่อั้น ติ๊ง! ทันที เมื่อมีเงินเข้าออก สมัครวันนี้ลุ้นรับฟรีรถจักรยานยนตร์ Yamaha Fino
                         2. Plan your money แจกตั๋วดูหนังฟรีไม่จำกัด เป็นต้น

        การขายโดยใช้พนักงานขาย
        บทบาทของธนาคารได้เปลี่ยนแปลงไปมาก จากอดีตที่ลูกค้าต้องเป็นฝ่ายเข้ามาติดต่อกับธนาคาร เป็นการที่พนักงานของธนาคารต้องออกไปหาลูกค้าแทน พัฒนาการของการขายเริ่มมาจากธนาคารต่างชาติที่เริ่มรุกธุรกิจย่อยตั้งแต่ปี 2536 จนกระทั่งวิกฤตเศรษฐกิจปี พ.ศ.2541 ซึ่งทำให้เกิดธนาคารที่มีการร่วมทุนระหว่างธนาคารท้องถิ่นกับธนาคารต่างชาติเป็นธนาคารลูกครึ่งหลายแห่ง เป็นผลให้การทำการตลาดเชิงรุกที่เน้นการขายมีมากขึ้น เช่น ธนาคารกรุศรีฯกลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ มีการปรับโครงสร้างองค์กรด้วยการจัดตั้งกลุ่มงานใหม่เพื่อดูแลลูกค้าที่มียอดขายอยู่ระหว่าง 500-3,000 ล้านบาทหรือ Middle Market Enterprise เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าให้มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น


        รายงานประจำปี 2556



        ภาคเรียนที่ 2/2557
        ประเภทสินเชื่อ



        ชื่อธนาคาร
        ชนิดสินเชื่อ
        ประเภท
        ลักษณะผู้ใช้
        ระยะเวลา
        อัตราดอกเบี้ย
        วงเงิน
        รัฐบาล
        ธุรกิจ
        อุปโภค
        บริโภค
        ธนาคารกรุงศรี
         
        สินเชื่อบุคคล
         
         
         
        ü
            
        อายุ 20 - 59 ปี​
        เป็นพนักงานประจำ และมีรายได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา​
        อายุการทำงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป​
        มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ทั้งที่บ้าน และ/ที่ทำงาน​
        มีบัญชีเงินเดือน (Payroll) กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา และรับเงินเดือนผ่านบัญชีของธนาคารมาแล้วอย่างน้อย 1 เดือน​
         
        สูงสุด 5 ปี
            
        อัตราดอกเบี้ย 9.99% ต่อปี เฉพาะ 3 เดือนแรก
             
        อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี
                 
        วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุด 1 ล้านบาท​

         
        สินเชื่อรถยนต์
             ศรีสวัสดิ์  เงินติดล้อ
         
         
         
         
         
         
         
         
          
            กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช
         
         
        ü
         
        ü
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        ü
         
        อายุ 21-65 ปี
        มีรถจักรยานยนต์เป็นของตัวเอง
        อายุรถไม่เกิน 8 ปี ทั้งทีโอน และยังไม่โอนกรรมสิทธิ์
        นิติบุคคล : อายุกิจการตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป มีรถเก๋ง กระบะ เป็นของตัวเอง : อายุรถไม่เกิน 20 ปี ทั้งทีโอน และยังไม่โอนกรรมสิทธิ์
         
         
        เฉพาะบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทยอายุ 20-60 ปี ณ วันที่ทำสัญญา  
         
        ผ่อนนานสูงสุด 24 เดือน
         
         
         
         
         
         
         
        ผ่อนชำระนานสูงสุด 72 เดือน
         
        ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี
        ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินไม่เกิน 13% ต่อปี
         
         
         
         
         
         
         อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และผู้ค้ำ ประกัน พิจารณาจากยี่ห้อ รุ่น ปีจดทะเบียน รวมทั้งรายได้และสถานภาพของผู้สมัคร ภายใต้หลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของธนาคารฯ
         
        ขึ้นกับมูลค่าของรถยนต์จากราคาประเมินของธนาคารฯ
         
         
         
         
                                    
                                     
        วงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่ารถยนต์จากราคาประเมินของธนาคารฯ
         
         
         
         
         
         
        สินเชื่อบ้านกรุงศรี
               กรุงศรีโฮมฟอร์แคช
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
            
            บ้านกรุงศรีรีไฟแนนซ์
         
         
         
        ü
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        ü
         
         
        ü
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        ü
         
        บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี     
        พนักงานประจำ  อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 ปี      
        ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
        ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ (ยกเว้นกรณีคู่สมรสไม่จดทะเบียน)
        พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 ปี (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
         
        บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุ 20 – 65 ปี
        พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 ปี
        ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประกอบธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
         ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ (ยกเว้นกรณีคู่สมรสไม่จดทะเบียน)
        พนักงานประจำ อายุงานรวมที่ทำงานเดิมและปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 2 ปี (งานปัจจุบันต้องผ่านการทดลองงานแล้ว)
         
        ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี (รวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี)
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี (รวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี)
         
        MLR  (บ้านเดี่ยว  บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์  ทาวน์โฮม)
         
        MLR + 1.50%  (อาคารพาณิชย์)
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        MLR  (บ้านเดี่ยว  บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์  ทาวน์โฮม)
         
        MLR   (อาคารพาณิชย์)
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        สูงสุด 80% ของราคาประเมิน
         
        สูงสุด70% ของราคาประเมิน
         
         
         
         
         
         
         
         
         
         
        วงเงินสูงสุด 95% ของราคาประเมิน
         
        วงเงินสูงสุด 90% ของราคาประเมิน
         
        สินเชื่อ SME
              สินเชื่อ Quick Loan
         
         
         
        ü
         
         
        ü
         
        เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ และมีสถานประกอบการอยู่ในประเทศไทย
        มีผลประกอบการและประวัติทางการเงินที่ดี
        ยินยอมให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลเครดิต
        มีอายุตั้งแต่ 20-65 ปี (สำหรับบุคคลธรรมดา)
         
        ระยะยาว 1 ปีขึ้นไป  สูงสุดไม่เกิน 9 ปี
         
        ระยะสั้น  เวลาชำระคืนสูงสุด 120 วัน
         
        ขึ้นอยู่กับประเภทวงเงินสินเชื่อและคุณสมบัติของผู้กู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยอิง MRR, MLR, MOR หรือดอกเบี้ยเงินฝาก (กรณีใช้เงินฝากเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน) โดยสินเชื่อระยะสั้น คิดอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ MRR + 1.50% ต่อปี* และสินเชื่อระยะยาว คิดอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ MRR + 1.25% ต่อปี
         
        วงเงินที่ขอสินเชื่อแต่ละประเภทวงเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ยกเว้นหนังสือค้ำประกันไม่จำกัดวงเงินขอสินเชื่อขั้นต่ำ โดยที่วงเงินรวมสูงสุด 10 ล้านบาท


         
         







        ไม่มีความคิดเห็น:

        แสดงความคิดเห็น